
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 7 ก.ค. พ.ต.ท.สิทธิพร ธารากุลทิพย์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วยพ.ต.ท.กฤถขจร พลบูรณ์ สว.สืบสวน กก.3บก.ทล. พ.ต.ต.อาทิตย์ จันทา สว.สส.ฯ ,พ.ต.ต.ฉลาม ภูเมืองขวา สว.สส.ฯ ร.ต.อ.พิศุทธิ์ธรรม ศรีบูจันดี รอง สว.สส.ฯ ร.ต.อ.พิชิต อุ่นสมัย รอง สส.สส.สภ.บ้านดุง ร.ต.ต.สมพร จันทร์ลอย ร.ต.อนุรัตน์ ศรีบุตร ร.ต.ต.อิติพร เห็นทั่ว และกำลังชุดสืบสวนได้ร่วมกันจับกุมตัวนายไชยธร ซาตา อายุ 27 ปี ชาว จ.อุดรธานี ลูก ผอ.ร.ร. ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ.472/2551 ลงวันที่ 25 ก.ย.51 ข้อหา “กระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยเด็กหญิงนั้นยินยอมหรือไม่ก็ตาม, พาเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไป เพื่อการอนาจารและปราศจากเหตุอันควร พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา” จับกุมตัวไว้ได้ขณะเดินอยู่ริมถนนสาธารณะหน้าตลาดสดเทศบาลเมืองบ้านดุง (ตลาดไชยยศ) ต.ศรีสุทโธ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากกรณี เมื่อเดือนก.ย.51 ที่ผ่านมา มีน.ส.แดง (นามสมมติ) เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ว่า ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ถูกนายไชยธร ซาตา ล่อลวงพาไปเพื่อการอนาจารและข่มขืนกระทำชำเรา เหตุเกิดที่เขตเทศบาลนครอุดรธานี ต่อเนื่องถึงอ.บ้านดุง และต่อมานายไชยธร ซาตา หลบหนีไปกระทั่งมีการออกหมายจับดังกล่าว
นายไชยธร ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นลูกชายของ ผอ.โรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งในจ.อุดรธานี ช่วงเกิดเหตุตนกำลังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี และได้รู้จักกับ ด.ญ.บี กำลังเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ต่อมาแอบลักลอบได้เสียกันจนผู้ปกครองฝ่ายหญิงรู้เรื่องจึงถูกแจ้งความดำเนินคดี ในช่วงที่กำลังเจรจาต่อรองไกล่เกลี่ยยอมความกันนั้น ผู้ปกครองฝ่ายหญิงเรียกเงินจากตนเป็นจำนวน 2 แสนบาท และลดลงมาเหลือ 1.5 แสน แต่ฝ่ายตนก็ยืนยันว่าจะจ่ายเงินเพียง 7 หมื่นบาทเท่านั้น และไม่สามารถตกลงกันได้ จนกระทั่งตนถูกออกหมายจับดังกล่าว โดยหลบหนีไปทำงานเป็นช่างแอร์ และขายรถยนต์มือสอง กระทั่งกลับมาบ้านก็เลยถูกจับดังกล่าว
จากนั้น จึงคุมตัวผู้ต้องหาส่งมอบให้ พ.ต.ต.นันทพล เชื้อพรมมา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ดำเนินคดีในข้อหา “กระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยเด็กหญิงนั้นยินยอมหรือไม่ก็ตาม พาเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจารและปราศจากเหตุอันควร พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา”